วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วิธีการผลิตกระดาษหอม ( ว่ามันหอมได้ยังไง) ^^

ทำให้กระดาษมีกลิ่นหอมมีกรรมวิธีอย่างไร ถ้าอยากจะให้ทำให้ได้หรือไม่
การทำให้กระดาษมีกลิ่นหอมในระดับอุตสาหกรรม จะะผสมหัวน้ำหอมลงไปในระหว่างขั้นตอนทำกระดาษค่ะ
ส่วนผู้ที่อยากจะทำกระดาษหอมใช้เอง ก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยนำกระดาษไปอบน้ำหอมหรือ เครื่องหอมต่างๆ ที่ต้องการแล้วอบไว้ให้มิดชิด 1-2 วัน กระดาษก็จะหอมค่ะ เพราะกระดาษที่ไม่ใช่กระดาษเคลือบผิวมัน จะมีคุณสมบัติในการดูดความชื้นเข้าไปได้ค่ะ^^



หรือจะใช้สบู่หอมกลิ่นที่ชอบวางแทนสำลีชุบน้ำหอมก็ได้ค่ะ

จะได้กลิ่นหอมที่อ่อน ๆ ไม่ฉุน  แต่ต้องอบหลายวันหน่อยนะคะ 


หากล่องเปล่า ๆ มา 1 ใบค่ะ ที่สามารถปิดได้สนิท

เอากระดาษที่จะอบใส่ลงไปในกล่อง

เอาจานหรือถ้วยกระเบื้องใบเล็ก ๆ วางบนกระดาษ แล้วเอาสำลีชุบน้ำมันหอมระเหย หรือ น้ำหอมกลิ่นที่ชอบ วางลงในจาน  ปิดฝา

เปิดดูวันละ 1 ครั้งว่า กลิ่นหอมติดกระดาษได้ที่รึยัง  ถ้ายัง เติมน้ำหอมที่สำลี แล้วปิดฝา อบต่อ

ปกติ วัน 2 วัน กระดาษก็หอมฟุ้งแล้วค่ะ  แต่ถ้ามีเวลาเยอะ  ก็อบทิ้งไว้ได้หลายวัน จนกว่าจะใช้  ระวัง อบนาน จะหอมจนฉุนเท่านั้นเอง 


วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัด '' อยุธยา ''

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ชวนครอบครัวหรือเกี่ยวก้อยคนรักเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนที่ จ. พระนครศรีอยุธยา เมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนทางวัฒนธรรม ชมบรรยากาศของเมืองเก่า ไหว้พระให้สุขใจก็เป็นโปรแกรมความสุขครบเครื่อง ที่ให้ทั้งความสุขตาและสุขใจในหนึ่งวัน
วัดมหาธาตุ วัดนี้สร้างในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 ต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัดเมื่อ พ.ศ. 1927 พระปรางค์วัดมหาธาตุถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยาซึ่งได้รับอิทธิพลของปรางค์ขอมปนอยู่
วัดพระศรีสรรเพชญ์ สร้างในรัชสมัยของ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ในราวปี พ.ศ.1991 โดยที่พระองค์ทรงเจียดพื้นที่ด้านหลังของพระบรมมหาราชวังให้เป็นวัดประจำวังหลวง ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกในการทำสังฆกรรม และ พระราชพิธีต่างๆ ได้โดยสะดวก
วัดภูเขาทอง สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้าง เมื่อ พ.ศ. 1930เมื่อบุเรงนองยกมาตีกรุงศรีอยุธยาได้เมื่อ พ.ศ. 2112 นั้น ได้สร้างพระเจดีย์ภูเขาทองขึ้นไว้เป็นที่ระลึก ต่อมาสมเด็จพระเจ้าบรมโกศ โปรดให้ซ่อมองค์พระเจดีย์ตอนบน เป็นแบบไทยพร้อม ๆ กันกับการบูรณะวัด
วัดมเหยงคณ์ มเหยงคณ์นี้ แปลว่าภูเขาเนินดิน เป็นอารามหลวงที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นวัดที่สร้างถัดจาก วัดราชบูรณะ 14 ปี ในรัชสมัยเดียวกัน และวัดนี้นอกจากจะมีขนาดใหญ่โตกินบริเวณได้เท่ากับช้างล้อมรอบ 80 เชือกแล้ว หากแต่ยังมีโบสถ์อันโอ่งโถงที่จุพระสงฆ์ได้ราว 1,000 รูป
วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นวัดที่มีความงดงามมากแห่งหนึ่งในกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ วัดนี้เป็นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้าสังวาลย์ซึ่งต้องพระราชอาญาโบยจนสิ้นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
วัดใหญ่ชัยมงคล เมื่อปี พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงเสริมพระเจดีย์ให้ ใหญ่และสูงขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่าย จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเฉลิมพระ เกียรติเมื่อคราวทรงชนะศึกยุทธหัตถี พระราชทานนามวัดใหม่ว่า"วัดชัยมงคล" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล
วัดหน้าพระเมรุ วัดนี้เป็นวัดเพียงวัดเดียว ที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลายอย่างย่อยยับ ดังที่ทำกับ วัดอื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะ วัดนี้เป็นที่ตั้งทัพของ พระเจ้ากรุงหงสาวดี ที่ยึดเอาวัดนี้ เป็นที่มั่นเจาะเข้าไปยัง พระบรมมหาราชวัง ซึ่งตั้งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่มีมาก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามพงศาวดารเหนือกล่าวว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งซึ่งครองเมืองอโยธยาเป็นผู้สร้างขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก และพระราชทานนามวัดว่า วัดพระเจ้าพระนางเชิง หรือ "วัดพระนางเชิง"
วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนกลาง มีพระพุทธไสยาสน์  มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร ก่ออิฐถือปูน พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน
วัดพระราม คาดว่าถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1912 ในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ซึ่งเป็นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

มารู้จักก สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัด '' สระแก้ว '' กันน้ะค้าาา ^^

สระแก้ว

สระแก้ว

สระแก้ว

สระแก้ว

สระแก้ว
ท่องเที่ยวสระแก้วคุ้มค่า 555 (ททท.)

          เที่ยวสระแก้วครึกครื้น เศรษฐกิจสระแก้วคึกคัก พบกับสุดยอดแหล่งท่องเที่ยว ของดีของดังเมืองสระแก้ว ...

          เพราะทุกแห่งที่คัดมานำเสนอเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและสุดยอดที่สุดที่ คุณต้องไม่พลาดแวะมาเยี่ยมเยือน ณ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งความหมายของ "ท่องเที่ยวสระแก้วคุ้มค่า 555" คือ สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว 15 แห่ง คือ...


สระแก้ว

สระแก้ว

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 5 ที่ ได้แก่...

          หลวงพ่อขาววัดนครธรรม 

          หลวงพ่อขาวเป็นพระพุทธรูปโบราณปางสมาธิ สร้างด้วยปูนถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ. 2468 เดิมเป็นองค์ประธานประดิษฐานที่วัดบ้านจิก ตำบลวัฒนานคร อำเภอวัฒนานคร มาเป็นเวลาช้านาน ไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด เพียงแต่มีคำบอกเล่าสืบกันมาว่าหลวงพ่อขาวเป็นพระพุทธรูปทองคำขาวที่ได้รับ การอัญเชิญมาจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยการอพยพของพลเมืองในสมัยก่อนเนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายจึงได้ทำการ พอกปูนปั้นองค์พระครอบหลวงพ่อขาวซึ่งเป็นทองคำขาวไว้ภายใน บ้างก็ว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีชื่อว่า "หลวงพ่อปูน" เข้าใจว่าสร้างด้วยปูนแต่โดยส่วนมากชาวบ้านมักจะเรียกกันว่า "หลวงพ่อขาว" จนถึงปัจจุบันนี้

          หลวงพ่อทองวัดสระแก้ว

          หลวงพ่อทอง หรือ พระครูรัตนสราธิคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระแก้ว เป็นพระภิกษุที่มีความเมตตาสูง เป็นที่เคารพรักของประชาชนทั่วไป อบรมเผยแพร่หลักธรรมของพระพุทธศาสนา และมีความรู้ความสามารถด้านวิชาแพทย์แผนโบราณ ช่วยเหลือบำบัดรักษาผู้ป่วยโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ นอกจากนี้ ยังเป็นพระภิกษุผู้ทรงวิทยาคุณด้านไสยศาสตร์  เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนในท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป แม้ท่านจะมรณภาพแล้วตั้งแต่ พ.ศ.2523 ประชาชนทั่วไปก็ยังเคารพนับถือท่าน คณะลูกศิษย์จึงได้ร่วมใจกันสร้างรูปปั้นของหลวงพ่อไว้ ณ วิหารหลวงพ่อทอง วัดสระแก้ว

          พระสยามเทวาธิราช

          เป็นรูปจำลองพระสยามเทวาธิราชสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2518 เป็นการจำลองรูปพระสยามเทวาธิราชในประวัติศาสตร์ครั้งแรกโดยพระอุทัย ธรรมธารี (พระอาจารย์เส็ง) วัดป่ามะไฟ จ.ปราจีนบุรี ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญจำลองในพ.ศ. 2508 และได้หล่อพระสยามเทวาธิราชจำลอง  ขนาดสูงประมาณ 1.29 เมตร และเมื่อเกิดเหตุการณ์ชายแดนด้านอรัญประเทศ-กัมพูชา สู้รบต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปี

          ศาลหลักเมือง

          เนื่องจากจังหวัดสระแก้วได้รับการสถาปนาให้เป็นจังหวัดใหม่ลำดับที่ 74 ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2536 เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน จึงมีมติให้สร้างศาลหลักเมืองแบบปรางค์ในปริมณฑลสวนกาญจนาภิเษก ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว พร้อมทั้งจัดทำเสาหลักเมืองจากต้นชัยพฤกษ ์ที่มีคุณลักษณะต้องตามโบราณประเพณี

          พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

          ตั้งอยู่ริมถนนสายสระแก้ว-อรัญประเทศ ก่อนถึงตัวที่ว่าการ อ.วัฒนานคร เล็กน้อย สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีพระปรีชาสามารถในการทำศึกสงครามเพื่อปกป้องราชอาณาจักร ตั้งแต่ครั้งยังดำรงตำแหน่งพระยศเป็นสมเด็จพระมหาอุปราช ในการปกป้องพระราชอาณาจักรทางด้านตะวันออก พระองค์ได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรู ซึ่งลักลอบเข้ามาโจมตีกวาดต้อนผู้คนบริเวณชายแดนอยู่เนือง ๆ โดยในปี พ.ศ. 2124 ได้ทรงยกทัพมาปราบปรามครั้งแรก ต่อมาในปี 2125 จึงได้โปรดให้ตั้งค่ายคูเมือง ปลูกยุ้งฉางข้าวลำเลียงไว้ที่ค่ายพระทำนบ (บริเวณ อ.วัฒนานครในปัจจุบัน)  และได้ยกทัพมาปราบปรามอริราชศัตรูอย่างราบคาบในปีนั้น


สระแก้ว

สระแก้ว

ชมของดี 5 อย่าง ได้แก่ ...

          ตลาดโรงเกลือ
          เป็นตลาดการค้าชายแดนขนาดใหญ่ที่คนทั่วไปรู้จักดี ตั้งอยู่ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ เป็นตลาดใหญ่ที่ประกอบด้วยตลาดย่อย ๆ อีก 5 ตลาด ได้แก่ ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเทศบาล 2 ตลาดโกลเด้นเกต ตลาดเดชไทย และตลาดเบ็ญจวรรณ มีร้านค้ารวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 3,000 ห้อง ในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนหลายสิบล้านบาท

          ปราสาทสด๊กก๊อกธม
          โบราณสถานที่ใหญ่และสำคัญของจังหวัดสระแก้ว แล้วยังเป็นโบราณสถานขอมที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเสม็ด ตำบลโคกสูง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้ประดิษฐานรูปเคารพและใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อในลัทธิ ศาสนาฮินดู โบราณสถานประกอบด้วยองค์ปราสาท 3 หลัง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีคูน้ำล้อมรอบ 4 ด้าน มีกำแพงแก้ว 2 ชั้น ชั้นนอกทำด้วยศิลาแลงชั้นในทำด้วยหินทราย ตัวปราสาทก่อด้วยหินทราย 

          เขาฉกรรจ์

          เขาฉกรรจ์ เป็นภูเขาหินปูนสามลูกต่อเนื่องกัน ตั้งอยู่ภายในวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ ต.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองสระแก้ว ประมาณ 18 กม. มีหน้าผาสูงชันทำมุมเกือบตั้งฉากกับพื้นดิน มีจุดสูงสุดของยอดเขาสูงประมาณ 324 เมตรจากระดับน้ำทะเล ภายในถ้ำมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยอยู่ถึง 12 แห่ง อาทิ ถ้ำหนุมาน ถ้ำมหาสิงห์ ถ้ำน้ำทิพย์ ถ้ำแก้วพลายชุมพล ซึ่งในถ้ำต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นที่อาศัยของฝูงค้างคาวจำนวนมากที่พร้อมใจกันบินออกหากินในตอนเวลาพลบค่ำ

          สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น
          อำเภอวังสมบูรณ์ วังน้ำเย็น เขาฉกรรจ์ คลองหาด มีสภาพภูมิอากาศเหมาะสำหรับการเลี้ยงโคนม เกษตรกรจึงได้รวมตัวกันเป็น "สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น" ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ เขตติดต่อกับอำเภอวังน้ำเย็น จากการส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกวันนี้มีโคนมนับหมื่นตัวมีปริมาณนมวันละหลายสิบตัน เป็นแหล่งผลิตน้ำนมใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ มีโรงผลิตนมภายใต้แบรนด์ "นมวังน้ำเย็น" ทั้งนมพาสเจอร์ไรด์ นมเปรี้ยว ส่งไปจำหน่ายตามโครงการนมโรงเรียนในหลายจังหวัด และใน กทม. รวมทั้งจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป

          อาหารอร่อย 5 ชนเผ่าเมืองอรัญฯ
          จากความหลากหลายของชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่เมืองอรัญ ทั้ง ย้อ ญวน ลาว เขมร จีน ไทย ทำให้เกิดความหลายของอาหารการกิน ที่สามารถเลือกชิมตามร้านอาหารทั่วไปในตัวเมืองอรัญฯ โดยเฉพาะอาหารอร่อยที่เลื่องชื่อที่ใครมาแล้วต้องไม่พลาดลิ้มลอง ได้แก่ "อาหารญวน" บริเวณชุมชนถนนมิตรสัมพันธ์หรือซอยบ้านญวน เป็นอาหารญวนสูตรเวียตนามใต้ เช่น จ้าวหล่อง (ข้าวต้มญวน) บั๊นหอย(เส้นหมี่หน้าหมู) ก๊าจ๋า(ทอดมันปลา) แหนมเนือง (หมูย่าง)  หว๋อยก๊วน (ปอเปี๊ยะสด) จ๋าหย่อหรือปอเปี๊ยะทอด บ่อบุ้ง (ขนมจีนหมูผัด) จ๋าเจียง (ทอดมันปลาเวียตนาม) เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีอาหารย้อบำรุงสุขภาพ เช่น แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง แกงผำ ลาบเหลว หมกกุ้ง เป็นต้น


ละลุ

ละลุ

เที่ยวแหล่งธรรมชาติ 5 สถาน ได้แก่... 

          ผืนป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่
          อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ มีเนื้อที่ 844 ตร.กม. หรือ 527,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และอ.เมืองสระแก้ว อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว สภาพป่าอุดมสมบูรณ์มากกว่าร้อยละ 95 เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารและเป็นส่วนหนึ่งของต้นกำเนิดแม่น้ำบางปะกง กลางผืนป่าปางสีดาจึงมีน้ำตกหลายแห่ง น้ำตกที่รู้จักกันดีและนักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแล้วเดินถึงเลย ได้แก่ น้ำตกปางสีดา ส่วนน้ำตกอื่นๆ ต้องเดินป่าหรือพักแรมกลางป่า ระยะตั้งแต่ 2 กม. ขึ้นไป เช่น น้ำตกผาตะเคียน น้ำตกลานแก้ว น้ำตกแควมะค่า น้ำตกทับซุง น้ำตกถ้ำค้างคาว เป็นต้น ซึ่งต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางล่วงหน้า

          ละลุ
          ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทางธรณีที่เกิดจากการยุบตัวหรือพังทลายของดิน ทั้งสายฝน กระแสลมพัดกระหน่ำ ผ่านช่วงเวลาอันยาวนาน ดินที่แข็งจะคงอยู่ ในขณะที่ดินอ่อนก็จะพังทลายและถูกกัดกร่อนลงไป เกิดเป็นแท่งหินเป็นรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน  มองคล้ายกำแพงเมืองหรือเสาหิน เหมือนกันกับ "แพะเมืองผี" ที่จังหวัดแพร่ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ละลุ" ที่แปลมาจากภาษาเขมรแปลว่า "ทะล"

          อ่างเก็บน้ำพระปรง
          อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดสระแก้ว มีความจุถึง 97 ล้านลูกบาศก์เมตรจนเกือบจะเรียกว่า "เขื่อน" เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในจังหวัดสระแก้ว สร้างกั้นต้นน้ำห้วยพระปรง ซึ่งเป็นลำน้ำที่ไหลลงมาจากอุทยานแห่งชาติปางสีดา จากสภาพป่าที่สมบูรณ์กลายเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ปลา นานาชนิด ทำให้ชาวบ้านแถวนี้หลังจากว่างเว้นจากการทำไร่ ทำนา จึงหารายได้เสริมด้วยการจับปลาขาย

          ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง
          ถ้ำเพชรโพธิ์ทองตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาเลื่อม ทางเดินขึ้นไปยังถ้ำระยะทางราว 700 เมตร ร่มรื่นด้วยป่าและต้นจันผาที่ชุมชนช่วยกันอนุรักษ์และปลูกเพิ่มจากเดิมที่ กำลังจะสูญพันธุ์ เป็นถ้ำขนาดกลางที่อยู่ในภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน ที่ปากถ้ำมีลมเย็นพัดผ่านช่องเขาเข้าไปในถ้ำ ด้วยอากาศที่มีการถ่ายเทตลอดเวลาส่งผลให้ภายในถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี ภายในถ้ำจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน จุดแรก ก้าวเท้าสู่ประตูถ้ำเพชรโพธิ์ทองที่หันหน้าไปทางตะวันตก เป็นลานกว้างรูปไข่ มีหินสีขาวนวลที่ถูกจัดวางโดยธรรมชาติ จากนั้นลงสู่ห้องโถงอุโมงค์ใหญ่ จุดที่สอง จุดนี้นักท่องเที่ยวจะรู้สึกถึงระบบการถ่ายเทของอากาศ

          น้ำตกเขาตะกรุบ

          เป็นน้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าสูง 50 เมตร มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน สายน้ำจะไหลจากหน้าผาที่สูงชันเกือบ 90 องศา ลงสู่เบื้องล่างก่อนจะไหลลงสู่น้ำตกเล็กอีกชั้นหนึ่ง ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมน้ำตกจะสวยมากเป็นพิเศษ บริเวณทางขึ้นน้ำตกเป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่นและเฟิร์นหลายชนิดแทรกขึ้นตามหลืบหิน เส้นทางก่อนถึงลานไทรอาจพบร่องรอยของช้างป่าที่มีชุกชุมในป่าแถบนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น และเส้นทางเดียวกันนี้เหมาะสำหรับการเดินดูนกและดูผีเสื้อ


ปราสาทสด๊กก๊อกธม

ปราสาทสด๊กก๊อกธม

          นอกจากนี้ ในช่วงปี 2553 จังหวัดสระแก้วยังจัดให้มีกิจกรรม เทศกาลงานประเพณีตลอด 12 เดือน เพื่อสร้างสีสันให้การเดินทางของนักท่องเที่ยวมีครบทุกรสชาติ 

           มกราคม      งานวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
           กุมภาพันธ์    งานสืบสานวัฒนธรรมเบื้องบูรพาและงานกาชาดจังหวัดสระแก้ว
           มีนาคม       งานวันชมพู่หวานและของดีคลองหาด
           เมษายน      งานแคนตาลูปและของดีเมืองอรัญ
           พฤษภาคม   การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Sa Kaeo Super Car Thailand
           มิถุนายน     เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา
           กรกฎาคม    เทศกาลดูนกน้ำตามเส้นทางนกงู
           สิงหาคม      ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในพื้นที่ จ.สระแก้ว
           กันยายน     งานสมโภชศาลหลักเมือง
           ตุลาคม       ประเพณีตักบาตรเทโวโรหนะ
           พฤศจิกายน  เทศกาลท่องผืนป่าตะวันออก
           ธันวาคม      งานสระแก้วเทิดไท้องค์ราชันย์

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การละเล่นของเด็กไทย ( เดินกะลา )

เดินกะลา

การเล่นเดินกะลา เด็กรุ่นก่อนๆ จะชอบเล่นเดินกะลามาก เพราะกะลาหาง่าย มีอยู่ทั่วไป การเดินบนกะลานั้น ผู้ที่เริ่มฝึกจะรู้สึกเจ็บฝ่าเท้า เพราะความโค้งมนและความแข็งของกะลา แต่ถ้าได้ฝึกบ่อยๆ อาการเจ็บก็จะหายไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเท้าแข็งแรงขึ้นและยังเป็นการนวดฝ่าเท้าไปในตัวด้วย นอกจากนี้ผู้เล่นจะฝึกในเรื่องของการทรงตัว ซึ่งจะทำให้เรียนรู้เรื่องของความสมดุล หรือ Balance ไปในตัวอีกด้วย คนที่รักษาสมดุลของร่างได้ดีก็จะทรงตัวได้ดีและมักจะถึงเส้นชัยก่อน นอกจากนี้ถ้าเล่นเดินจนเบื่อแล้วก็ยังสามารถเอามาเล่นเป็นโทรศัพท์พูดแล้วได้ยินเสียงกันได้เรียนรู้เรื่องของเสียงได้อีกด้วย

อุปกรณ์การเล่น
กะลามะพร้าวคนละ 2 อัน
เชือกยาวประมาณ ๑ เมตร
วิธีทำ
นำกะลาที่ล้างสะอาดเจาะรูตรงกลางสำหรับร้อยเชือก แล้วร้อยเชือกผูกปมให้แน่นหนากันหลุดเวลาเดิน
กติกาการเล่น
ในการแข่งขันผู้ใดเดินกะลาได้เร็วและไม่ล้มจะเป็นผู้ชนะ หากเป็นการเล่นคนเดียวเด็กจะใช้จินตนาการในการเล่นของตน เช่น สมมุติว่าเป็นการขี่ม้าหรือเดินรองเท้าส้นสูง เป็นต้น
วิธีการเล่น
ให้ขีดเส้นชัย โดยห่างจากเส้นเริ่มต้น 3 เมตรหรือ 5 เมตรหรือตามแต่จะตกลงกัน ผู้เล่นจะต้องขึ้นไปยืนบนกะลาที่คว่ำลงทั้งสองซีก ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้คีบหนีบเชือกไว้ มือจับเชือกดึงให้ถนัด เริ่มเล่นโดยการให้ทุกคนเดินจากเส้นเริ่มต้นแข่งขันกัน ใครที่ถึงเส้นชัยก่อนก็ชนะ หรือถ้าไม่เล่นแบบแข่งขันกัน ก็ใช้เล่นเดินในสวน หรือที่สนามก็ ใช้ออกกำลังกาย ก็เป็นการเล่นที่สนุกอีกแบบนึง
ประโยชน์จากการเล่น
เพื่อความสนุกเพลิดเพลิน, เสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ และเป็นการฝึกการทรงตัวอีกด้วย การเดินกะลาไม่จำกัดจำนวนฝึกการทรงตัว พัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย และสนุกสนานเพลิดเพลิน