วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาศึกษาเรื่อง แมวไทย กันนร้าค้าบบบบ ^^

แมวไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แมวไทย พันธุ์วิเชียรมาศ
แมวไทย คือแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย คุณสมบัติที่ทำให้แมวไทยเหนือกว่าแมวชนิดอื่น คือ อุปนิสัย แมวไทยมีความฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิด รู้จักประจบ รักบ้าน รักเจ้าของ และเหนืออื่นใด คือ รักความอิสระของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ อิสระที่ จะกิน จะดื่ม หรือจะไปไหนตามที่ใจชอบ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัวที่ทำให้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่น สีสันตามตัวของแมวไทย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักรักแมวรู้สึกสุขใจยามได้มอง ไม่ว่าจะเป็น วิเชียรมาศ เก้าแต้ม ขาวมณีหรือขาวปลอด นิลรัตน์หรือดำปลอด ศุภลักษณ์หรือ ทองแดง สีสวาดหรือแมวไทยพันธุ์โคราช ต่างล้วนได้รับความสนใจ จากเจ้าของและผู้สนใจทั้งสิ้น
เมื่อปี พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานแมววิเชียรมาศคู่หนึ่งให้แก่ กงสุลอังกฤษชื่อ โอเวน กูลด์ แมวไทยคู่นี้ชนะการประกวดแมวที่ กรุงลอนดอน และทำให้ชาวอังกฤษนิยมเลี้ยงแมวไทยมากขึ้น ในที่สุดก็แพร่หลายไปทั่วโลก และแมววิเชียรมาศก็เป็นที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า "Siamese Cat" หรือ แมวสยาม
ในสหรัฐอเมริกา แมวไทยตัวแรกเป็นแมวของ ลูซี่ เว็บบ์ ภรรยาของ รัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮส์ ประธานาธิบดีคนที่ 29 ของสหรัฐอเมริกา[1]
สำหรับในประเทศไทย คนไทยที่เป็นที่รับรู้ดีว่าชอบเลี้ยงแมวไทย อาทิ เช่น นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายพิชัย วาสนาส่ง อดีตผู้เชี่ยวชาญเรื่องการต่างประเทศ และ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล อดีตผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.) เป็นต้น
ปัจจุบัน ยีนของแมวไทยได้กระจายไปสู่แมวสายพันธุ์ต่างประเทศทั่วโลกมากถึง 40 สายพันธุ์ด้วยกัน[2]

ชนิดของแมวไทย[แก้]

แมวไทย (วิฬาร) ที่ยังเหลือให้พบเห็นในปัจจุบันนี้มี 6 ชนิดคือ วิเชียรมาศ สีสวาด ศุภลักษณ์ โกญจา ขาวมณี และแซมเสวตร[3] แต่แท้จริงแล้วในสมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยว่ามีทั้งหมด 23 สายพันธุ์ แบ่งออกเป็นแมวให้คุณ 17 ชนิด และ แมวร้ายให้โทษอีก 6 ชนิด

แมวให้คุณ 17 ชนิด[แก้]

แมวไทยบนแสตมป์ของ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด (ซ้ายบน) ขาวมณี, (ซ้ายล่าง) วิเชียรมาศ, (ขวาบน) มาเลศ, (ขวาล่าง) ศุภลักษณ์
  1. วิเชียรมาศ เมื่อแรกเกิดมีขนสีขาวหมด พอโตขึ้นจะมีสีเปลี่ยนเป็นสีครีมอ่อน ๆ แต่ที่หน้า หาง เท้าทั้งสี่หูทั้งสองข้าง และที่อวัยวะเพศอีก 1 แห่งรวมเก้าแห่งมีสีน้ำตาล (สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกายสีฟ้าสดใส เลี้ยงไว้มีคุณค่ายิ่งลำนักหนา จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูล
  2. ศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง สีขนเป็นสีทองแดงตลอดตัว มีนัยน์ตาเป็นประกาย ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นอำมาตย์มนตรี
  3. มาเลศ หรือ แมวโคราช หรือ สีสวาด มีขนสีดอกเลาเปรียบเสมือนกับเมฆสีเทายามฟ้ายับฝน มีนัยน์ตาหยาดเยิ้มประหนึ่งนำค้างย้ยต้องกลีบบัว ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำมาซึ่งสุขสวัสดิ์มงคล
  4. โกนจา หรือ ดำปลอด มีสีดำละเอียด นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม หางเรียวยาว ท่าทางการเดินสง่าเหมือนสิงโต แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
  5. นิลรัตน์ สีดำทั้งตัว รวมถึงเล็บ ลิ้น ฟัน ดวงตา และกระดูก หางยาวตวัดได้จนถึงหัว เลี้ยงไว้แล้วเชื่อว่าจะมีความเจริญ มีทรัพย์ ปราศจากอันตราย
  6. วิลาศ มีลำตัวสีดำจากคอไปตลอดท้อง จากสองหูไปจนถึงหางและขาทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเขียว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองมากมาย
  7. เก้าแต้ม มีสีขาวเป็นพื้น มีแต้มสีดำเก้าจุดที่คอ หัว ต้นขาหน้าและหลังทั้งสองข้างและที่ท้ายลำตัว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะรุ่งเรืองทางการค้าขาย
  8. รัตนกำพล ตัวขาวเหมือนหอยสังข์ แต่รอบตัวตรงส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีเหลือง เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมียศ ผู้อื่นยำเกรง
  9. นิลจักร มีลำตัวดำสนิท ที่คอมีขนสีขาวอยู่รอบเหมือนกับปลอกคอ เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมีทรัพย์มาก
  10. มุลิลา ลำตัวดำ หูสองข้างมีสีขาว ตามีสีเหลืองเหมือนดอกเบญจมาศ เชื่อว่าแมวชนิดนี้เหมาะกับนักบวชเลี้ยงเพราะช่วยให้มีการเล่าเรียนดีสมปรารถนา
  11. กรอบแว่น หรือ อานม้า มีปานลักษณะอานม้าบนหลัง เชื่อว่าแมวชนิดนี้มีราคาสูงถึงแสนตำลึงทองคำ และให้เกียรติยศแก่เจ้าของ
  12. ปัดเสวตร หรือ ปัดตลอด ตัวมีสีดำเป็นพื้น ตั้งแต่จมูกไปตามแนวสันหลังถึงปลายหางมีสีขาว ตาเหลืองคล้ายกับพลอย หากเลี้ยงไว้จะมีความเจริญมากกว่าคนในสกุลเดียวกันและได้ลาภยศ
  13. กระจอก ไม่กระจอกเหมือนชื่อ ลำตัวกลมมีสีดำ รอบปากมีสีขาว ตาสีเหลือง เลี้ยงแล้วเชื่อกันว่าจะได้ที่ดินเงินทอง ไพร่ก็จะได้เป็นเจ้านายคน
  14. สิงหเสพย์ หรือ โสงหเสพย์ ลำตัวมีสีดำ ที่ปาก รอบคอ จมูกมีสีขาว ตาสีเหลือง ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงโต เลี้ยงแล้วมีสิริมงคล
  15. การเวก ลำตัวสีดำ จมูกสีขาว ตาเป็นประกายสีทอง เชื่อกันว่าภายใน 7 เดือนที่ได้มาเลี้ยงจะได้ยศศักดิ์และลาภจำนวนมาก
  16. จตุบท ตัวสีดำ เท้าทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเหลืองเหมือนดอกโสน เชื่อว่าให้คุณกับคนเลี้ยง แต่ไม่เหมาะกับคนทั่วไป สมควรเลี้ยงแก่บุคคลชั้นสูงหรือราชินิกูลเท่านั้น
  17. แซมเสวตร มีขนสีดำแซมขาว มีขนบางและสั้น รูปร่างเพรียว มีนัยน์ตาดั่งหิ่งห้อย เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย

แมวร้ายให้โทษ 6 ชนิด[แก้]

  1. ทุพลเพศ มีขนสีขาว ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตทาตาไว้ มีนิสัยไม่ดีชอบลักขโมยปลาไปกินทุกคำคืน ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุขเกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ
  2. พรรณพยัคฆ์ หรือ ลายเสือ มีขนลายเหมือนเสือ ลักษณะขนเหมือนชุบด้วยเกลือกับแกลบ มีนัยน์ตาสีแดงเจือสีเปือกตม มีเสียงร้องเหมือนเสียงผีโป่งร้องอยู่ตามป่าเขา ถือว่าเป็นแมวให้โทษอีกชนิดหนึ่ง
  3. ปีศาจ เป็นแมวที่กินลูกตัวเอง ออกลูกมากี่ตัวกินหมด ลักษณะขนสาก ตัวผอม หนังยาน โบราณจัดเป็นแมวร้ายอย่านำมาเลี้ยงไว้
  4. หิณโทษ เป็นแมวนำมาซึ่งสิ่งเลวร้าย นำภัยพิบัติมาสู่บ้าน ใครเลี้ยงไว้จะไม่เป็นมงคล ออกลูกมามักจะมีลูกตายอยู่ในท้อง
  5. กอบเพลิง เป็นแมวที่ลึกลับชอบซ่อนตัวหลบหลีกผู้คน พอมันเห็นคนมันจะเดินหรือรีบวิ่งหนี ใครเลี้ยงไว้จะมีโทษถึงตัว
  6. เหน็บเสนียด มีลักษณะเหมือนค่าง ชอบเอาหางขดซ่อนไว้ใต้ก้นเสมอ มีรูปร่างพิกลพิการ อย่าเลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้เสียชื่อเสียงและเกียรติยศ

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่าวคุ้งกระเบนนน

โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี
ความเป็นมาของโครงการ
     ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาอันเป็นรูปแบบ “การจัดการทรัพยากรชายฝั่งด้านประมงและการเกษตรอย่างยั่งยืน”
     ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ดำเนินการประมาณ ๖๑,๐๒๖ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ๒๓ หมู่บ้าน ตามแนวชายฝั่งทะเล และพื้นที่ตอนในของอำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม
แนวพระราชดำริ
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบปัญหาเสื่อมโทรมของพื้นที่เพาะปลูก ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรและการประมงลดต่ำลง จึงมีพระราชดำริที่จะทำการศึกษาพัฒนาพื้นที่ในเขตที่ดินชายทะเล เพื่อแนะนำให้ประชาชนได้มีความรู้ และเล็งเห็นความสำคัญของการใช้ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านต่างๆ อย่างเหมาะสม จึงพระราชทานพระราชดำริแก่
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔ ความว่า
“…ให้พิจารณาพื้นที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตรในเขตพื้นที่ดินชายฝั่งทะเลของจังหวัดจันทบุรี…”
     ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กับนายเล็ก จินดาสงวน และนายสุหะ  ถนอมสิงห์ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในเขตจังหวัดจันทบุรี ความว่า
“...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม หรือพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา เช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...”
     ซึ่งจากการดำเนินงานตามแผนแม่บทที่ผ่านมา การดำเนินงานสามารถบรรลุผลสำเร็จตามแนวพระราชดำริที่พระราชทานให้ไว้ในระดับหนึ่ง เช่น การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกร 
การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม โดยสามารถขยายผลสู่ประชาชนในหมู่บ้านรอบๆ ศูนย์ฯ ก่อให้เกิดรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อให้การดำเนินงานสนองพระราชดำริได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และเกิดความยั่งยืน สามารถนำผลสำเร็จไปขยายผลสู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น ศูนย์ฯ จึงได้จัดทำแผนแม่บทฉบับที่ ๕ (พ.ศ.๒๕๕๐ - ๒๕๕๔) ขึ้น เพื่อใช้แผนแม่บทเป็นกรอบและเครื่องมือชี้นำการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สุขแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์
     ๑. เพื่อเพิ่มผลผลิตพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
     ๒. เพื่อส่งเสริมและสาธิตการเลี้ยงกุ้งทะเล
     ๓. ศึกษาผลกระทบของสิ่งแวดล้อม
     ๔. เพื่อค้นคว้าทางวิชาการและเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
     ๕. เพื่ออบรมและถ่ายทอดความรู้ด้านอาชีพประมงให้แก่เกษตรกรและนักเรียน
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
     - ศูนย์ศึกษาการพัฒนาประมงอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
     - ส่วนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ
     - สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการประมง กรมประมง
แผนการดำเนินงานปี ๒๕๕๕
กิจกรรม
หน่วยนับ
เป้าหมาย
๑. ผลิตพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง
     - ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ตัว
ตัว
๕,๐๐๐,๐๐๐
๕,๐๐๐,๐๐๐
๒. จุดเรียนรู้และสาธิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
     ๒.๑ สาธิตการเลี้ยงกุ้งทะเลในบ่อ
     ๒.๒ สาธิตการเลี้ยงหอยนางรมปากจีบและหอยตะโกรมแบบแขวน
     ๒.๓ สาธิตการเลี้ยงปลาในกระชัง
แห่ง
แห่ง
แห่ง
แห่ง



๓. ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
     ๓.๑ การเลี้ยงกุ้งทะเล
     ๓.๒ การเลี้ยงปลาในบ่อดิน
ราย
ราย
ราย
๑๕๐
๑๐๐
๕๐
๔. ฝึกอบรมเกษตรกรและนักเรียน
     (หลักสูตรอนุรักษ์ทรัพยากรประมงสำหรับเยาวชน/หลักสูตรการเลี้ยงปลาน้ำกร่อย)
ราย
๑๐๐
๕. ให้บริการทางวิชาการ
ราย
๑,๔๕๐
๖. ติดตามผลการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
ครั้ง
๒๔๐
๗. ติดตามและตรวจสอบสภาวะแวดล้อมในอ่าวคุ้งกระเบน
ครั้ง
๑๒
๘. ให้บริการด้านห้องสมุด
ครั้ง
๒๔๐
๙. งานบริการเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
ราย
๓๐,๐๐๐
๑๐. ให้บริการศึกษาดูงานและถ่ายทอดเทคโนโลยี
ราย
๓๐๐,๐๐๐
๑๑. งานบริการอาคารสถานที่
ครั้ง/ราย
๓๐๐/๒๑,๐๐๐
๑๒. แจกเอกสารวิชาการและเผยแพร่
ฉบับ
๒๐,๐๐๐
๑๓. จัดนิทรรศการ
ครั้ง
๑๔. ผลิตปุ๋ยหมักจากดินเลนนากุ้ง
กิโลกรัม
๒๐,๐๐๐
๑๕. รับนักศึกษาฝึกงาน
ราย
๒๐
๑๖. ติดตามและแนะนำเกษตรกร
ครั้ง
๑๐
พื้นที่ดำเนินการ
     - เกษตรกรในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
ระยะเวลาดำเนินการ
     - ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๙
งบประมาณ
     ๑๐,๓๕๓,๔๖๐ บาท
ภาพกิจกรรมการดำเนินงาน
     - ภาพโรงเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง (ปลากะรัง ปลากะพงขาว ปลาการ์ตูน หอยหวาน ฯลฯ) สำหรับปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ 
     - ภาพจุดเรียนรู้และสาธิตการเพาะเลี้ยงหอยนางรมปากจีบและหอยตะโกรมแบบแขวน
     - ภาพสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (ปลากะรังจุดฟ้า ปลาหมอทะเล ปลาช่อนทะเล ปลาไหล กระเบน ฯลฯ) และการแสดงเปลือกหอยชนิดต่างๆ
      
     
     
      
     
     
     
     
     
     
     
     






           ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 
           พื้นที่ดำเนินงานและพื้นที่ขยายผลศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ครอบคลุม 33 หมู่บ้าน ในตำบลคลองขุด, ตำบลรำพัน, ตำบลโขมง อำเภอท่าใหม่ และ ตำบลสนามไชย, ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ประมาณ 71,025 ไร่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
           1. ที่ตั้งศูนย์การศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน หมู่ที่ 3, 4, 7, 9 และ 10 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ และหมู่ที่ 7 ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่
           2. หมู่บ้านรอบศูนย์ ได้แก่ ตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย ตำบลรำพัน ตำบลกระแจะ พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรม และหมู่บ้านประมงแนวฝั่งทะเล มีพื้นที่ประมาณ 57,025 ไร่ การดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้น การส่งเสริมการเกษตรแบบบูรณาการ
           3. พื้นที่ขยายผลการดำเนินงาน ได้แก่ ตำบลรำพัน ตำบลโขมง ตำบลเสม็ดโพธิ์ศรี อำเภอท่าใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์ฯ มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จ ในศูนย์ฯ สู่พื้นที่โดยรอบศูนย์
           พิกัด N 1392000 E 814000 WGS84 L7018 ระวางแผนที่ 5334 II อาณาเขตติดต่อ
 
    ทิศเหนือติดต่อกับ อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอเขาคิชฌกูฎ
    ทิศใต้ติดต่อกับ อำเภอแหลมสิงห์และอ่าวไทย
    ทิศตะวันออกติดต่อกับ อำเภอเขาคิชฌกูฎและอำเภอเมืองจันทบุรี
    ทิศตะวันตกทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอนายายอาม
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

 
           ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2524 โดยมีพระราชดำริแก่ นายบุญนาค สายสว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี สรุปได้ว่า
          “...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ของจันทบุรี...”
          และได้พระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในโดยเสด็จพระราชกุศลในโอกาสดังกล่าวเป็นทุนเริ่มดำเนินการ
          ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สาระสรุปได้ว่า
          “...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...”
          ทางจังหวัดจันทบุรีจึงได้ร่วมกันหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และกำหนดพื้นที่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีกรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงานในพื้นที่
          ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น จึงรับสนองพระราชดำริ ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานจังหวัดจันทบุรี กรมที่ดิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โครงการชลประทานจังหวัดจันทบุรี กรมชลประทาน สำนักนโยบายและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด กรมปศุสัตว์ และอื่น ๆ
          ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ มีพื้นที่เป้าหมายของโครงการอยู่ ณ บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ครอบคลุมชายฝั่งทะเลโดยรอบ รวม 200 ไร่ ส่วนพื้นที่รอบนอกได้แก่ พื้นที่เขตตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย พื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นเขตหมู่บ้านประมงตลอดแนวชายฝั่งทะเล และเขตเกษตรกรรม ประมาณ 32,000 ไร่
 
 
1.
ศึกษารูปแบบการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
2.
เป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ ผลการศึกษาการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนทั่วไป
3.
ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ และอาชีพของราษฎรบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งเน้นพัฒนาช่วยเหลือราษฎรที่มีฐานะยากจน
4.
พัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มผลผลิตของประเทศ ตลอดจนพัฒนากิจกรรมอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
5.
อนุรักษ์สภาพแวดล้อมและดุลยภาพทางธรรมชาติให้คงลักษณะพิเศษของพื้นที่เอาไว้
6.
ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพัฒนา
 
 
บทบาทหน้าที่หลักของงานพัฒนาที่ดิน
- ดำเนินการสำรวจ ศึกษาทดลอง สาธิตทดสอบ อบรมเผยแพร่ความรู้
- ด้านวิชาการ และให้บริการส่งเสริมเกี่ยวกับ การพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรดิน
- จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยพืชสด
- ผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ปรับปรุงพื้นที่ดินเปรี้ยวดินกรด
- ให้บริการเก็บตัวอย่างดินและวิเคราะห์ดิน
- ส่งเสริมการปลูกและแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ในพื้นที่โครงการ หมู่บ้านบริวาร และหมู่บ้านขยายผล
 
ผลการดำเนินงานพัฒนาและขยายผล ในอดีต
1.ศึกษาวิจัยทดสอบด้านวิชาการเกี่ยวกับงานพัฒนาที่ดิน
2.สาธิตและส่งเสริมการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์
3.จัดทำระบบการอนุรักษ์ดินและน้ำ
4.ส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำฯ
5.ส่งเสริมการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ดินเปรี้ยวและดินกรด
6.อบรมเผยแพร่ความรู้ด้านการพัฒนาที่ดิน
7.ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผลิตปุ๋ยอินทรีย์
 
ผลการดำเนินงานพัฒนาและขยายผล ในปัจจุบัน
- ส่งเสริมและพัฒนาการฟื้นฟูทรัพยากรที่ดิน
- ส่งเสริมการปรับปรุงบำรุงดิน
- ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
- จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ
- ส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกและแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝก
- จัดตั้งกลุ่มเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี/สารเคมี
- ส่งเสริมการเก็บดิน การวิเคราะห์ดิน และให้คำแนะนำ
- จัดทำจุดเรียนรู้การพัฒนาที่ดินในพื้นที่โครงการ
- การก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นา นอกเขตชลประทาน
- อบรมเผยแพร่ความรู้ และบูรณาการงานโครงการพระราชดำริฯ
 
ปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 3
ฟื้นฟูพื้นที่ทิ้งร้างเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำนา
(ยกคันดินเพื่อปลูกพืช)
การใช้ปุ๋ยพืชสดปรับปรุงบำรุงดินในนาข้าว
ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยพืชสดในสวนผลไม้
รณรงค์งดเผาตอซังข้าว
ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยหมักชีวภาพ
และส่งเสริมการไถกลบตอซัง

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

รีวิว หาดเจ้าหลาว

เส้นทางสู่หาดเจ้าหลาว
เส้นทางสู่หาดเจ้าหลาว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมในจังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างเทศกาลงานประเพณีขึ้นเขาคิชฌกูฎ ประมาณ มกราคม - มีนาคม ของทุกปี ในช่วงนี้ประชาชนที่เดินทางมาทำบุญก็จะหาสถานที่ท่องที่ยวแวะระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นขามา หรือขากลับ การได้แวะเที่ยวหลายๆ ที่ย่อมสร้างความสุขคุ้มค่าได้มากกว่า ผู้ที่ค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงในเส้นทางสู่เขาคิชฌกูฎ โดยมากก็จะเลือกเข้ามาชมหาดเจ้าหลาวเป็นอย่างมาก หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาพักผ่อนที่หาดเจ้าหลาวโดยตรงก็มีไม่น้อย สำหรับเว็บทัวร์ออนไทยดอทคอม ผู้ชมหาดเจ้าหลาว ถือว่ามากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเขาคิชฌกูฎ เลยทีเดียว


advertize



วงเวียนพะยูนเล่นน้ำ
วงเวียนพะยูนเล่นน้ำ (หมูดุด) การเดินทางสู่หาดเจ้าหลาว จากถนนสุขมวิทจะมีทางแยกขวาทางหลวงหมายเลข 3399 เข้าวังโตนด ขับตามทางเข้ามาจะมีป้ายบอกทางตลอดจนถึงสามแยกที่เป็นวงเวียนโลมา และวงเวียนพะยูนเล่นน้ำประมาณ 22 กิโลเมตร จากวงเวียนที่นับว่าเป็นจุดกึ่งกลางของบริเวณหาดเจ้าหลาวซึ่งยาวเกือบ 5 กิโลเมตร สามารถเลือกเลี้ยวซ้ายหรือขวาไปเที่ยวหาดทรายได้ตามความชอบ เพราะบรรยากาศริมหาดเครื่องอำนวยความสะดวกที่พักและร้านอาหารมีมากมายเหมือนกัน สำหรับทริปนี้เราจะเริ่มด้วยการเลี้ยวซ้ายไปจนสุดหาดเจ้าหลาวจากนั้นค่อยขับรถกลับมาด้านขวากันครับ

หาดเจ้าหลาวกาแฟสด
หาดเจ้าหลาวกาแฟสด ร้านกาแฟสำหรับนักเดินทางอย่างเราๆ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม เจ้าของร้านกาแฟจะตกแต่งร้านให้สวยๆ น่ารัก สะดุดตาแต่ไกลๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าให้เข้ามาในร้าน ร้านกาแฟสดถือว่าเป็นจุดแวะพักทั้งคนทั้งรถที่ดีอย่างหนึ่งในระหว่างการเดินทางไกล เจ้าหลาวกาแฟเป็นเจ้าของเดียวกันกับเจ้าหลาวมินิมาร์ท และเจ้าหลาวรีสอร์ท เรียกว่าให้บริการครบวงจร แม้ว่ารีสอร์ทจะไม่ติดชายหาดแต่ก็น่าพักทีเดียวครับ เดินลงหาดก็ไม่ไกลมากด้วย
 ถนนเลียบหาดเจ้าหลาวแห่งนี้มีร้านอาหารบริการหลายร้านริมทางได้แก่ สุดทางรักซีฟู๊ดเจ้าหลาว 085-2839697 นอกจากนี้ร้านอาหารที่สร้างกระท่อมริมทะเลเพิ่มบรรยากาศของมื้ออาหารก็ได้แก่ ครัวทะเล หนึ่งซีฟู๊ด เป็นต้น

ท่าเรือประมงหาดเจ้าหลาว
ท่าเรือประมงหาดเจ้าหลาว  จากถนนเลียบหาด เลี้ยวลงมาซอยเฉลิมบูรพาชลทิศ 124 เข้ามาสุดถนนจะพบสะพานท่าเรือประมงของหาดเจ้าหลาว เป็นจุดหนึ่งของหาดเจ้าหลาวทางทิศตะวันออก เป็นสะพานท่าเรือปกติใช้จอดเรือของชาวประมงเป็นเรือขนาดเล็ก แต่ก็สามารถให้บริการนำเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเช่าเรือไปดำน้ำ ตกปลา จับหมึก หรือที่เรียกว่าไดหมึก ก็มีให้บริการที่นี่ด้วย จากถนนเลียบหาดเจ้าหลาวหากไม่เลี้ยวลงมาที่สะพานเรือประมงแห่งนี้ก็ยังขับไปเรื่อยๆ สุดหาดบริเวณโรงแรมนิวทราเวลบีชรีสอร์ท

บริการเรือนำเที่ยวหาดเจ้าหลาว
บริการเรือนำเที่ยวหาดเจ้าหลาว มีป้ายประกาศเพียงอันเดียวติดอยู่ที่บริเวณสะพานท่าเรือ สนใจเรือนำเที่ยวหาดเจ้าหลาวติดต่อได้ที่คุณกร 089-9339230

สะพานท่าเรือหาดเจ้าหลาว
สะพานท่าเรือหาดเจ้าหลาว ไหนๆ ก็ลงมาแล้วจะพาเดินไปชมวิวที่ปลายสะพานกลางทะเลกันครับ

เรือประมงเล็กหาดเจ้าหลาว
เรือประมงเล็กหาดเจ้าหลาว เห็นแบบนี้ก็เป็นเครื่องมือหากินที่สำคัญยิ่งของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่หาดเจ้าหลาวมาช้านาน แถมยังบริการพานักท่องเที่ยวไปลองหาปลา จับหมึกได้อีกด้วย เรือประมงขนาดเล็กเหล่านี้มีจอดเรียงรายผูกไว้กับสะพานจำนวนมากอย่างที่เห็น ระหว่างการเดินบนสะพานก็จะเห็นน้ำใสๆ เบื้องล่าง ท้องฟ้าสีคราม เสน่ห์แห่งหาดเจ้าหลาวและทะเลเมืองจันท์ครับ

สะพานท่าเรือหาดเจ้าหลาว
สะพานท่าเรือหาดเจ้าหลาว 

วิวสวยหาดเจ้าหลาว
วิวสวยหาดเจ้าหลาว 

รถเข็นสีสดใส
รถเข็นสีสดใส เห็นรถเข็นคันนี้ลงสีสันลวดลายจัดจ้านแลยอดเดินไปเก็บภาพไม่ได้ครับ เป็นรถเข็นที่ขาวประมงจะใช้ขนของ ตรงที่เป็นที่ทำงานของขาวประมงก่อนขึ้นสะพานท่าเรือประมงนี้มีร้านอาหารเปิดให้บริการด้วยครับ ชื่อร้านเจ๊อึ่งซีฟู๊ด นอกจากอาหารตามสั่ง อาหารทะเล ยังมีของฝากอย่างกะปิขายด้วย บรรยากาศในร้านเป็นหลังคาอย่างง่ายๆ จะได้ชมวิวสวยๆ ตรงสะพานท่าเรือ รับประกันความสดของอาหารทะเลเพราะอยู่ตรงที่ชาวประมงจอดเรือเอาปู ปลา ขึ้นมานั่นเอง มีเบอร์โทร. มาให้ด้วยครับ เจ๊อึ่งซีฟู๊ด 081-2916491, 087-1464599, 082-2564894, 081-9301474 อีกร้านหนึ่งที่อยู่กลางซอยลงทะเล ชื่อร้านป้าเต๋าซีฟู๊ด 087-0416610

ที่พักหาดเจ้าหลาวบ้านสุดขอบฟ้า
ที่พักหาดเจ้าหลาวบ้านสุดขอบฟ้า เป็นที่พักติดหาดบริเวณสะพานท่าเรือประมงหาดเจ้าหลาว หาดหน้าบ้านพักจึงกลายเป็นหาดส่วนตัวไป นักท่องเที่ยวทั่วไปจะเข้าไปไม่ได้นะครับ สนใจติดต่อบ้านสุดขอบฟ้า 039-369178, 039-312253

ที่พักหาดเจ้าหลาวบ้านสมาคุณ
ที่พักหาดเจ้าหลาวบ้านสมาคุณ ถนนลงสะพานท่าเรือประมง ประกอบไปด้วยที่พักมากมายเหมือนกันครับ บางแห่งไม่ได้ติดถนนมีซอยย่อยเข้าไปแต่ไม่ลึกมาก ได้แก่โรงแรมแคมป์ชายหาดรีสอร์ท ลึกเข้าไปในซอยอีกหน่อยก็มีบ้านสมาคุณแห่งนี้ บ้านพักหลังเล็กๆ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 500 บาท (ตามฤดูกาล) มีหาดสั้นๆ หน้าบ้านพัก แต่หาดนี้ยาวเลยไปไกลครับเพียงแต่เป็นเขตของรีสอร์ทอื่นต่อๆ กันไป บ้านสมาคุณรีสอร์ทมีข้อดีคือ ติดทะเล มีห้องแอร์-ทีวี ทำอาหารกันได้ ติดต่อที่ 087-0221213, 084-3521784 ที่พักใกล้เคียงกันได้แก่ Beside the Sea 081-9235510, 085-7376011 บ้านชมทะเล 039-369284, 039-431376

หาดเจ้าหลาวหน้าบ้านสมาคุณ
หาดเจ้าหลาวหน้าบ้านสมาคุณ มีเปลผูกไว้ได้บรรยากาศการพักผ่อน ผมชอบมุมนี้ที่สุดในบ้านสมาคุณเลยละครับ

โรงแรมบูมบูมรีสอร์ทหาดเจ้าหลาว
โรงแรมบูมบูมรีสอร์ทหาดเจ้าหลาว เป็นรีสอร์ทที่ตกแต่งได้อย่างสวยงามมาก มีหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือกพักได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล บ้านพักแต่ละหลังออกแบบแตกต่างกัน แต่ภายในตกแต่งเหมือนๆ กัน ราคาก็แตกต่างกันไป ข้อมูลเพิ่มเติมของโรงแรมบูมบูมรีสอร์ทหาดเจ้าหลาว ที่ http://www.boomboomresort.com/ โทร.039-433-355, 087-534-5333

สระว่ายน้ำบูมบูมรีสอร์ทหาดเจ้าหลาว
สระว่ายน้ำบูมบูมรีสอร์ทหาดเจ้าหลาว จุดเด่นของบูมบูมรีสอร์ท คือการมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่หน้าบ้านพัก เหมาะแก่การพักผ่อน

โรงแรมสุขสำราญรีสอร์ท
โรงแรมสุขสำราญรีสอร์ท คราวนี้มาดูที่พักตามรายทางที่เราผ่านบนถนนเลียบหาดกันบ้างครับ มีอยู่มากมายให้เลือก มีทั้งติดหาดและไม่ติดหาด หลากหลายราคาให้เลือก สุขสำราญรีสอร์ท สร้างเป็นบ้านพักหลังเล็กๆ ไม่ติดหาด บนถนนเลียบหาดเจ้าหลาว ราคา 300-500 (แอร์-พัดลม) โทร.039-369298, 086-1474126
 รายชื่อที่พักหาดเจ้าหลาว (เอาที่พอจะหามาได้ครับ มีเยอะมากจริงๆ)
 - ทะเลสวยรีสอร์ท ติดทะเล มีสระว่ายน้ำ 087-1289992
 - เจ้าหลาวโฮมสเตย์ ห้องพัก+อาหารเช้า 580 บาท สอนทำอาหารพื้นเมือง 081-1761080 , 039-369094
 - ยาใจบีชรีสอร์ท ติดทะเล 039-388045
 - เบสท์รีสอร์ท 085-2769300 , 089-8977569 , 039-369-184
 - พานิชเจริญรีสอร์ท 039-369223-4

บ้านเหลืองจันทร์ที่พักหาดเจ้าหลาว
บ้านเหลืองจันทร์ที่พักหาดเจ้าหลาว รีสอร์ทที่ไม่ได้ติดทะเลก็จริงแต่ก็มีบรรยากาศน่าพักไม่แพ้ใครครับ 089-6678960

โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช
โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช อีกหนึ่งโรงแรมใหญ่ที่ริมหาดเจ้าหลาว โทร. 039-433191-7

สมายบีชที่พักหาดเจ้าหลาว
สมายบีชที่พักหาดเจ้าหลาว อยู่ไม่ไกลจากเจ้าหลาวทอแสงบีช โทร. 039-433170

ครัวชลิต
ครัวชลิต ร้านอาหารริมหาดเจ้าหลาว รวมทั้งเป็นที่พักที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว ก็คือบ้านตุ่มนั่นเองครับ

บรรยากาศครัวชลิต
บรรยากาศครัวชลิต เดี๋ยวจะพาเข้าไปชมด้านที่พักบ้านตุ่มกันครับ

บ้านตุ่มที่พักหาดเจ้าหลาว
บ้านตุ่มที่พักหาดเจ้าหลาว บรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว ร่มรื่นตลอดบริเวณบ้านพัก ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.baantoom.com/

สระว่ายน้ำบ้านตุ่มรีสอร์ท
สระว่ายน้ำบ้านตุ่มรีสอร์ท 

หาดส่วนตัวบ้านตุ่มรีสอร์ท
หาดส่วนตัวบ้านตุ่มรีสอร์ท 

หาดส่วนตัวบ้านตุ่มรีสอร์ท
หาดส่วนตัวบ้านตุ่มรีสอร์ท บริเวณหาดยาวต่อเนื่องเป็นพื้นที่ของรีสอร์ทริมหาดเจ้าหลาวหลายรายเรียงติดกันครับ หาดบริเวณนี้สะอาดน้ำใส น่าเล่นน้ำมากทีเดียว

บ้านอิ่มสุขรีสอร์ท
บ้านอิ่มสุขรีสอร์ท ที่พักติดหาดเจ้าหลาว ที่สุดท้ายที่เราขอแนะนำในทริปนี้ แต่แน่นอนครับว่ายังมีอีกเยอะมาก เอาเท่านี้ก็มีมากเพียงพอที่จะเลือกพักผ่อนกับหาดเจ้าหลาวได้อย่างสบายๆ สไตล์ที่เราชอบ ข้อมูลเพิ่มเติมบ้านอิ่มสุขรีสอร์ท http://www.baanimmsook.com/ หรือโทร. 089-2327555 , 089-2369555