วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

อ่าวคุ้งกระเบนนน

โครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี
ความเป็นมาของโครงการ
     ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษา ทดลอง วิจัย และพัฒนาอันเป็นรูปแบบ “การจัดการทรัพยากรชายฝั่งด้านประมงและการเกษตรอย่างยั่งยืน”
     ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ดำเนินการประมาณ ๖๑,๐๒๖ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ ๒๓ หมู่บ้าน ตามแนวชายฝั่งทะเล และพื้นที่ตอนในของอำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม
แนวพระราชดำริ
     พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบปัญหาเสื่อมโทรมของพื้นที่เพาะปลูก ทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย ทำให้ผลผลิตด้านการเกษตรและการประมงลดต่ำลง จึงมีพระราชดำริที่จะทำการศึกษาพัฒนาพื้นที่ในเขตที่ดินชายทะเล เพื่อแนะนำให้ประชาชนได้มีความรู้ และเล็งเห็นความสำคัญของการใช้ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้านต่างๆ อย่างเหมาะสม จึงพระราชทานพระราชดำริแก่
ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๒๔ ความว่า
“…ให้พิจารณาพื้นที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาอาชีพการประมงและการเกษตรในเขตพื้นที่ดินชายฝั่งทะเลของจังหวัดจันทบุรี…”
     ต่อมาเมื่อวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๒๔ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน กับนายเล็ก จินดาสงวน และนายสุหะ  ถนอมสิงห์ เกี่ยวกับโครงการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในเขตจังหวัดจันทบุรี ความว่า
“...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม หรือพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา เช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...”
     ซึ่งจากการดำเนินงานตามแผนแม่บทที่ผ่านมา การดำเนินงานสามารถบรรลุผลสำเร็จตามแนวพระราชดำริที่พระราชทานให้ไว้ในระดับหนึ่ง เช่น การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกร 
การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม โดยสามารถขยายผลสู่ประชาชนในหมู่บ้านรอบๆ ศูนย์ฯ ก่อให้เกิดรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพื่อให้การดำเนินงานสนองพระราชดำริได้ครบถ้วนสมบูรณ์ และเกิดความยั่งยืน สามารถนำผลสำเร็จไปขยายผลสู่ประชาชนมากยิ่งขึ้น ศูนย์ฯ จึงได้จัดทำแผนแม่บทฉบับที่ ๕ (พ.ศ.๒๕๕๐ - ๒๕๕๔) ขึ้น เพื่อใช้แผนแม่บทเป็นกรอบและเครื่องมือชี้นำการดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์สุขแก่เกษตรกรอย่างแท้จริง
วัตถุประสงค์
     ๑. เพื่อเพิ่มผลผลิตพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
     ๒. เพื่อส่งเสริมและสาธิตการเลี้ยงกุ้งทะเล
     ๓. ศึกษาผลกระทบของสิ่งแวดล้อม
     ๔. เพื่อค้นคว้าทางวิชาการและเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
     ๕. เพื่ออบรมและถ่ายทอดความรู้ด้านอาชีพประมงให้แก่เกษตรกรและนักเรียน
หน่วยงานที่รับผิดชอบ
     - ศูนย์ศึกษาการพัฒนาประมงอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
     - ส่วนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ
     - สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการประมง กรมประมง
แผนการดำเนินงานปี ๒๕๕๕
กิจกรรม
หน่วยนับ
เป้าหมาย
๑. ผลิตพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง
     - ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ตัว
ตัว
๕,๐๐๐,๐๐๐
๕,๐๐๐,๐๐๐
๒. จุดเรียนรู้และสาธิตการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
     ๒.๑ สาธิตการเลี้ยงกุ้งทะเลในบ่อ
     ๒.๒ สาธิตการเลี้ยงหอยนางรมปากจีบและหอยตะโกรมแบบแขวน
     ๒.๓ สาธิตการเลี้ยงปลาในกระชัง
แห่ง
แห่ง
แห่ง
แห่ง



๓. ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
     ๓.๑ การเลี้ยงกุ้งทะเล
     ๓.๒ การเลี้ยงปลาในบ่อดิน
ราย
ราย
ราย
๑๕๐
๑๐๐
๕๐
๔. ฝึกอบรมเกษตรกรและนักเรียน
     (หลักสูตรอนุรักษ์ทรัพยากรประมงสำหรับเยาวชน/หลักสูตรการเลี้ยงปลาน้ำกร่อย)
ราย
๑๐๐
๕. ให้บริการทางวิชาการ
ราย
๑,๔๕๐
๖. ติดตามผลการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง
ครั้ง
๒๔๐
๗. ติดตามและตรวจสอบสภาวะแวดล้อมในอ่าวคุ้งกระเบน
ครั้ง
๑๒
๘. ให้บริการด้านห้องสมุด
ครั้ง
๒๔๐
๙. งานบริการเข้าชมสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ
ราย
๓๐,๐๐๐
๑๐. ให้บริการศึกษาดูงานและถ่ายทอดเทคโนโลยี
ราย
๓๐๐,๐๐๐
๑๑. งานบริการอาคารสถานที่
ครั้ง/ราย
๓๐๐/๒๑,๐๐๐
๑๒. แจกเอกสารวิชาการและเผยแพร่
ฉบับ
๒๐,๐๐๐
๑๓. จัดนิทรรศการ
ครั้ง
๑๔. ผลิตปุ๋ยหมักจากดินเลนนากุ้ง
กิโลกรัม
๒๐,๐๐๐
๑๕. รับนักศึกษาฝึกงาน
ราย
๒๐
๑๖. ติดตามและแนะนำเกษตรกร
ครั้ง
๑๐
พื้นที่ดำเนินการ
     - เกษตรกรในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
ระยะเวลาดำเนินการ
     - ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๙
งบประมาณ
     ๑๐,๓๕๓,๔๖๐ บาท
ภาพกิจกรรมการดำเนินงาน
     - ภาพโรงเพาะพันธุ์สัตว์น้ำชายฝั่ง (ปลากะรัง ปลากะพงขาว ปลาการ์ตูน หอยหวาน ฯลฯ) สำหรับปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ 
     - ภาพจุดเรียนรู้และสาธิตการเพาะเลี้ยงหอยนางรมปากจีบและหอยตะโกรมแบบแขวน
     - ภาพสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ (ปลากะรังจุดฟ้า ปลาหมอทะเล ปลาช่อนทะเล ปลาไหล กระเบน ฯลฯ) และการแสดงเปลือกหอยชนิดต่างๆ
      
     
     
      
     
     
     
     
     
     
     
     






           ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
 
           พื้นที่ดำเนินงานและพื้นที่ขยายผลศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ครอบคลุม 33 หมู่บ้าน ในตำบลคลองขุด, ตำบลรำพัน, ตำบลโขมง อำเภอท่าใหม่ และ ตำบลสนามไชย, ตำบลกระแจะ อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ประมาณ 71,025 ไร่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
           1. ที่ตั้งศูนย์การศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน หมู่ที่ 3, 4, 7, 9 และ 10 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ และหมู่ที่ 7 ตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่
           2. หมู่บ้านรอบศูนย์ ได้แก่ ตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย ตำบลรำพัน ตำบลกระแจะ พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นเขตเกษตรกรรม และหมู่บ้านประมงแนวฝั่งทะเล มีพื้นที่ประมาณ 57,025 ไร่ การดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้น การส่งเสริมการเกษตรแบบบูรณาการ
           3. พื้นที่ขยายผลการดำเนินงาน ได้แก่ ตำบลรำพัน ตำบลโขมง ตำบลเสม็ดโพธิ์ศรี อำเภอท่าใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงศูนย์ฯ มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ที่ประสบความสำเร็จ ในศูนย์ฯ สู่พื้นที่โดยรอบศูนย์
           พิกัด N 1392000 E 814000 WGS84 L7018 ระวางแผนที่ 5334 II อาณาเขตติดต่อ
 
    ทิศเหนือติดต่อกับ อำเภอแก่งหางแมว และอำเภอเขาคิชฌกูฎ
    ทิศใต้ติดต่อกับ อำเภอแหลมสิงห์และอ่าวไทย
    ทิศตะวันออกติดต่อกับ อำเภอเขาคิชฌกูฎและอำเภอเมืองจันทบุรี
    ทิศตะวันตกทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอนายายอาม
ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

 
           ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2524 โดยมีพระราชดำริแก่ นายบุญนาค สายสว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี สรุปได้ว่า
          “...ให้พิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม จัดทำโครงการพัฒนาด้านอาชีพการประมงและการเกษตร ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก ของจันทบุรี...”
          และได้พระราชทานเงินที่ราษฎรจังหวัดจันทบุรีได้ร่วมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในโดยเสด็จพระราชกุศลในโอกาสดังกล่าวเป็นทุนเริ่มดำเนินการ
          ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำริเพิ่มเติม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน สาระสรุปได้ว่า
          “...ให้พิจารณาจัดหาพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมหรือพื้นที่สาธารณประโยชน์ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาเช่นเดียวกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ ให้เป็นศูนย์ศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาในเขตที่ดินชายทะเล...”
          ทางจังหวัดจันทบุรีจึงได้ร่วมกันหารือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณาความเหมาะสม และกำหนดพื้นที่บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นพื้นที่จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีกรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในการประสานการดำเนินงานในพื้นที่
          ผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น จึงรับสนองพระราชดำริ ก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2524 ที่ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานจังหวัดจันทบุรี กรมที่ดิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โครงการชลประทานจังหวัดจันทบุรี กรมชลประทาน สำนักนโยบายและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด กรมปศุสัตว์ และอื่น ๆ
          ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ มีพื้นที่เป้าหมายของโครงการอยู่ ณ บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ครอบคลุมชายฝั่งทะเลโดยรอบ รวม 200 ไร่ ส่วนพื้นที่รอบนอกได้แก่ พื้นที่เขตตำบลคลองขุด ตำบลสนามไชย พื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นเขตหมู่บ้านประมงตลอดแนวชายฝั่งทะเล และเขตเกษตรกรรม ประมาณ 32,000 ไร่
 
 
1.
ศึกษารูปแบบการจัดการทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน
2.
เป็นศูนย์กลางในการอบรมเผยแพร่ ผลการศึกษาการจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ให้แก่ส่วนราชการและภาคเอกชนทั่วไป
3.
ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ และอาชีพของราษฎรบริเวณอ่าวคุ้งกระเบน และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมุ่งเน้นพัฒนาช่วยเหลือราษฎรที่มีฐานะยากจน
4.
พัฒนาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มผลผลิตของประเทศ ตลอดจนพัฒนากิจกรรมอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย
5.
อนุรักษ์สภาพแวดล้อมและดุลยภาพทางธรรมชาติให้คงลักษณะพิเศษของพื้นที่เอาไว้
6.
ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงพัฒนา
 
 
บทบาทหน้าที่หลักของงานพัฒนาที่ดิน
- ดำเนินการสำรวจ ศึกษาทดลอง สาธิตทดสอบ อบรมเผยแพร่ความรู้
- ด้านวิชาการ และให้บริการส่งเสริมเกี่ยวกับ การพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรดิน
- จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงบำรุงดิน การใช้ปุ๋ยพืชสด
- ผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ ปรับปรุงพื้นที่ดินเปรี้ยวดินกรด
- ให้บริการเก็บตัวอย่างดินและวิเคราะห์ดิน
- ส่งเสริมการปลูกและแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ในพื้นที่โครงการ หมู่บ้านบริวาร และหมู่บ้านขยายผล
 
ผลการดำเนินงานพัฒนาและขยายผล ในอดีต
1.ศึกษาวิจัยทดสอบด้านวิชาการเกี่ยวกับงานพัฒนาที่ดิน
2.สาธิตและส่งเสริมการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์
3.จัดทำระบบการอนุรักษ์ดินและน้ำ
4.ส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำฯ
5.ส่งเสริมการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ดินเปรี้ยวและดินกรด
6.อบรมเผยแพร่ความรู้ด้านการพัฒนาที่ดิน
7.ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผลิตปุ๋ยอินทรีย์
 
ผลการดำเนินงานพัฒนาและขยายผล ในปัจจุบัน
- ส่งเสริมและพัฒนาการฟื้นฟูทรัพยากรที่ดิน
- ส่งเสริมการปรับปรุงบำรุงดิน
- ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมักและน้ำหมักชีวภาพ
- จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ
- ส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกและแจกจ่ายกล้าหญ้าแฝก
- จัดตั้งกลุ่มเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี/สารเคมี
- ส่งเสริมการเก็บดิน การวิเคราะห์ดิน และให้คำแนะนำ
- จัดทำจุดเรียนรู้การพัฒนาที่ดินในพื้นที่โครงการ
- การก่อสร้างแหล่งน้ำในไร่นา นอกเขตชลประทาน
- อบรมเผยแพร่ความรู้ และบูรณาการงานโครงการพระราชดำริฯ
 
ปรับรูปแปลงนาลักษณะที่ 3
ฟื้นฟูพื้นที่ทิ้งร้างเพื่อใช้ประโยชน์ในการทำนา
(ยกคันดินเพื่อปลูกพืช)
การใช้ปุ๋ยพืชสดปรับปรุงบำรุงดินในนาข้าว
ส่งเสริมการใช้ปุ๋ยพืชสดในสวนผลไม้
รณรงค์งดเผาตอซังข้าว
ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยหมักชีวภาพ
และส่งเสริมการไถกลบตอซัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น